Captain America: Civil War กัปตันอเมริกา ศึกฮีโร่ระห่ำโลก
หลังจากที่ กัปตันอเมริกา หรือสตีฟ (Chris Evans) หลับไหลไปยาวนาน ในสภาพ ถูกแช่แข็งถึง 70 ปี หลังจากตื่นขึ้นมา สตีฟ ก็ต้องพยายาม เรียนรู้ที่จะปรับตัว เข้ากับยุคใหม่ ที่นิวยอร์ค เพื่อนในหน่วยชิลด์ กำลังตกอยู่ ในอันตราย movie hd
สตีฟกับแบล็ควินโดว์ หรือ นาตาชา โรมานอฟ (Scarlett Johansson) ก็ร่วมมือกัน เพื่อเปิดโปง แผนลับบางอย่าง แต่เมื่อทั้งคู่ กำลังจะตกหลุมพราง เขาทั้งคู่ ได้รับการ ช่วยเหลือจาก เดอะฟอลคอน (Anthony Mackie) ซึ่งจะนำไปสู่ ศัตรูที่ร้ายกาจ กว่าที่คิด
หลังจากภาพยนตร์ ภาคแรก ที่ถูกฉายออกไป ก็ได้รับการตอบรับ ดีเกินคาด แต่สังเกตไหม ว่าภาคแรก ถ่ายทำในบรรยากาศ ที่ดูเก่า ๆ ชวนอึดอัด และข้อสังเกต คือ ชุดของกัปตัน เป็นการออกแบบ ที่ค่อนข้างเชย
และความสามารถ ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร เท่าคนอื่น นี่คงเป็นบทเรียน ที่สำคัญ ทำให้ภาค 2 สร้างออกมาแก้ตัว และปรับปรุง ภาพลักษณ์เก่า ๆ จากภาคแรก ในส่วนของภาค 2 หนังฉีกแนว จากสงครามเก่า ๆ ไปเล่นกับ การสืบสวน สอบสวน การหักหลัง และการเป็นสายลับ เหมือนเป็นภาค ที่เปิดตัว โรมานอฟ นั่นเอง
คล้าย ๆ เจมส์บอนด์ แฟนตาซีเล็ก ๆ นั่นเอง หนังมาร์เวลส์หลัง ๆ มานี่ผมรู้สึกเหมือน ดูการ์ตูน มากขึ้นทุกที สีสัน มันก็มากไป ทำให้ดู แฟนตาซี เกินมาก ๆ ซึ่งกัปตันภาคนี้ ก็จะพยายาม ตบมาร์เวลส์ ให้เข้าที่เข้าทาง
ใครที่ดูและงงว่า หน่วยชิลด์ คืออะไร ในเรื่อง จะไม่บอกอะไรมาก แต่ว่า มาร์เวลส์ มีซีรี่ส์ Agent of S.H.I.E.L.D ด้วย ใครที่ชอบ องค์สืบสวน สอบสวน ก็ลองไปหาดูกัน เพราะมีความเชื่อมโยง กับกัปตันภาค 2 ด้วย
ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้
1. ความเป็นผู้นำ ของกัปตันอเมริกา ภาคนี้ การดำเนินเรื่อง ในแนวสืบสวน สอบสวน และการทำงาน กันเป็นทีม กับโรมานอฟ ทำให้เรา เห็นการตัดสินใจ ที่เด็ดขาด และแน่วแน่ ของกัปตัน และเป็นการ ตัดสินใจ ที่รอบคอบ ก่อนที่จะสั่งออกไป
2. ความสามารถ ของโรมานอฟ นอกจาก จะสวย และเก่งแล้ว โรมานอฟ ยังมีความฉลาด ในแบบที่ สายลับ ควรจะมี ทำให้โรมานอฟ กลายมาเป็นตัว Main หลักของทีม อเวนเจอร์ เช่นกัน แม้จะไม่มี พลังพิเศษ แต่ความเป็นสายลับ และความสามารถ ของเธอก็ โดดเด่นมาก
ภาคนี้ถือว่า ทำได้ดีมาก แก้เกมส์ จากภาคแรก ได้อย่างดีเลิศ อย่างน้อยก็ เปลี่ยนแนวจาก หนังบู๊ สงครามโบราณ มาเป็นการ สืบสวน สอบสวน และทำให้หนัง น่าสนใจมากขึ้น