ไขลานการต่างประเทศ

หลังถูกกลุ่มชาติสมาชิกอาเซียนแบนไม่ให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และครั้งที่ 39 รวมถึงการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่ประเทศบรูไนจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค.
ทำให้ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ถึงกับบ่นผิดหวังเป็นอย่างมากกับการตัดสินใจของอาเซียน
ในแถลงการณ์ผลการประชุมฉุกเฉินของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ลงมติเห็นพ้องกัน ระบุชัดถึงสาเหตุที่แบนว่า เพราะรัฐบาลทหารพม่าไม่มีความคืบหน้า ไม่มีประสิทธิภาพ กับการดำเนินการ 5 ฉันทามติ ในการยุติความขัดแย้งภายในประเทศ
ที่ชาติสมาชิกอาเซียนได้ตกลงกับทางพม่ามาตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งก็ทำให้รัฐบาลทหารพม่าต้องยอมปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองจำนวนมากในหลายเมือง ที่ถูกจับกุมคุมขังเอาไว้
รวมไปถึง โฆษกของ “อองซาน ซูจี” ประธานพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) และอดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐ
โดยทางการพม่าระบุว่า จะปล่อยตัวนักโทษการเมืองกว่า 5,600 คน ที่ถูกจับกุม หรือมีหมายจับ หลังมีบทบาทชุมนุมประท้วงต่อต้านการรัฐประหารมาตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ.
ชัดเจนว่าการปล่อยตัวนักโทษการเมืองครั้งใหญ่นี้ก็หวังจะลดแรงกดดันจากชาติอาเซียน
หันมาดูบทบาทของรัฐบาลไทย ภายใต้การนำของนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา
ดูจะโอบอุ้มรัฐบาลทหารพม่ามาตลอด ทั้งในทางเปิดเผย หรือในทางใต้ดิน โดยเฉพาะการงดออกเสียงในการรับรองข้อมติสมัชชาสหประชาชาติ ให้หยุดการขายอาวุธให้กับพม่า
ทำให้ถูกประณามอย่างหนักว่าให้ท้ายรัฐบาลทหารพม่า
ไล่ปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนที่ออกมาต่อสู้ทวงคืนประชาธิปไตยของพวกเขา
ก็เข้าใจได้ว่าคนหัวอกเดียวกัน “หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ”
เลยทำได้แต่นิ่งอึ้งไม่หือไม่อือ เพราะสถานการณ์ของตัวเอง ก็แทบจะเอาไม่รอด